วันโอโซนโลก World Ozone Day นานาประเทศได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมจึงได้ร่วมกันจัดทำอนุสัญญาการป้องกันชั้นบรรยากาศโอโซน ขึ้นในปี 2528 เรียกว่า “อนุสัญญาเวียนนา และพิธีสาร ว่าด้วยการเลิกใช้สารทำลายชั้นโอโซน” ขึ้น และ ในปี 2530 ได้จัดให้มีการลงนาม เรียกว่า “พิธีสารมอลทรีออล”
หากไม่มีพิธีสารมอนทรีออลฉบับนี้ ชั้นบรรยากาศโอโซนที่คอยช่วยกรองรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบน โลกจะถูกทำลายลง โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติได้ประเมินไว้ว่า หากพิธีสารมอนทรีออลไม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้น จำนวนคนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งผิวหนังในอีก 40 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 19 ล้านคนทั่วโลก และ 130 ล้านคนจะเป็นโรคตาต้อกระจก แม้ว่าระยะเวลาดังกล่าวจะดูเหมือนค่อนข้างนาน แต่ด้วยการเจริญเติบโตทางอุตสาหกรรม สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนจะยิ่งถูกผลิตมากขึ้นและนำไปใช้ในปริมาณมาก ปฏิกิริยาการทำลายโอโซนก็จะยิ่งสูงขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้พิธีสารมอนทรีออลยังมีส่วนในการช่วยชะลอปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศไปอีก 10 ปี กล่าวคือ หากไม่มีพิธีสารดังกล่าว โลกจะเผชิญกับปัญหาการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศเร็วขึ้นอีก 10 ปี
ก๊าซโอโซนถูกค้นพบครั้งแรกโดยนักเคมีชาวดัตช์ ชื่อ วอน มารุม (Van Marum) จากอุปกรณ์จับปริมาณก๊าซ โดยนายมารุมได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์รอบ ๆ ขั้วผลิตกระแสไฟฟ้าจากอุปกรณ์ชุดทดลองของเขา อย่างไรก็ตาม การค้นพบโอโซนได้ถูกบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในปี 2383 คือ คริสเตียน ฟรีดริช เชินไบน์ (Christian Friedrich Schönbein) นักเคมีชาวเยอรมัน โดยเขาตั้งชื่อก๊าซตามภาษากรีกคำว่า ozein ซึ่งแปลว่ากลิ่น หลังจากนั้น เครื่องผลิตโอโซนเครื่องแรกได้ถูกผลิตโดย วอน ซีเมนต์ (Von Siemens) ในกรุงเบอร์ลิน (Berlin)
มนุษย์ได้นำโอโซนไปใช้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เช่น นำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตเคมีภัณฑ์ นำไปใช้เป็นสารซักฟอก ใช้ฆ่าแบคทีเรีย เป็นต้น ก๊าซโอโซนจัดเป็นก๊าซพิษ การสูดดมก๊าซโอโซนเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งแตกต่างจากคำว่าโอโซนที่บางครั้งถูกใช้ในบริบทของการท่องเที่ยวหรือการพักผ่อนหย่อนใจ เช่นในวลีว่า “สูดโอโซน” Ozone, “รับโอโซน” หรือ “แหล่งโอโซน” เป็นต้น ถือว่าเป็นการใช้โอโซนผิดความหมาย เพราะความจริงแล้วโอโซนมีความเป็นพิษต่อมนุษย์ บริเวณที่มีโอโซนมากในประเทศไทย ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และย่านถนนสีลมในกรุงเทพมหานคร คำว่าโอโซนที่ใช้กันผิด ๆ จะหมายถึง ออกซิเจนหรืออากาศบริสุทธิ์ซึ่งดีต่อระบบการหายใจ ไม่ใช่ก๊าซโอโซนที่เป็นพิษ มีอันตรายต่อสุขภาพ
ผลกระทบที่มีต่อพืช สำหรับพืชชนิดที่ไวต่อรังสีเช่น ฝ้าย ถั่วต่าง ๆ แตงและผัก จะมีการเจริญเติบโตช้าลง และบางส่วนของเกสรไม่สามารถผสมได้ รังสีนี้เป็นตัวทำลายฮอร์โมนและคลอร์ฟีลล์ซึ่งทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสงได้น้อยลง ถ้าโอโซนยังถูกทำลายลงไปก็จะทำให้ผลผลิตการเกษตรและป่าไม้ของเราลดลง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผลกระทบในด้านมลภาวะ เป็นการเพิ่มมลพิษในอากาศให้สูงขึ้นอีกด้วย เพราะโอโซนเป็นก๊าซพิษ ถ้าปริมาณโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ลดลงรังสี UV-B จะแผ่ลงมาในบรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์ ซึ่งมีระดับต่ำกว่าทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีเพิ่มขึ้น นั้นคือ พื้นที่ใดที่มีระดับไนโตรเจนออกไซด์สูงพอที่จะทำให้เกิดผลิตผลของโอโซน ก็จะทำให้เกิดมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพอีกทางหนึ่งด้วย
ผลกระทบต่อวัสดุมากมายหลายชนิด จะทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วขึ้น พลาสติกที่ใช้นอกอาคารจะมีอายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก เว้นแม้แต่วัสดุที่ทำจากแผ่นโพลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) ดูเหมือนว่าจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และอีกมายมาย
|
องค์การบริหารส่วนตำบลบางแค
|
|
ลิขสิทธิ์ © 2557 - 2566 องค์การบริหารส่วนตำบลบางแค จังหวัดสมุทรสงคราม. สงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด.
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล